สัปดาห์ที่แล้ว ได้รับเมล์ขอความช่วยเหลือ จาก รุ่นน้องในชมรมอนุรักษ์เทคโนโคราช ด้วยเรื่อง ค่ายเด็กรักษ์ป่า โดยมีนายทุนชาวเดนมาร์ค เป็นสปอนเซอร์ใหญ่ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ แรกเริ่มเดิมที ค่ายนี้มีโปรแกรมจัด ปลูกป่า ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ติดปัญหาที่โครงการออกมาในระยะกระชั้นชิดเกินไป กำหนดการที่จะปลูกป่าจึงต้องเปลี่ยนไป เนื่องจาก ไม่สามารถหาสถานที่สำหรับงานครั้งนี้ได้.. ล่าสุด จึงสรุปได้ว่า เราคงต้องเปลี่ยนกิจกรรม ไปตามสถานที่ กล่าวคือ กิจกรรมคร่าวๆ เปลี่ยนจากการปลูกป่ามาเป็น การทำโปร่งเทียม
ค่ายนี้จะมีขึั้นใน วันที่ 27-28 พย.2553 ที่บริเวณ "ผากระดาษ" อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยกลุ่มเป้าหมายคือ เด็กประถมในรร.เขตอำเภอสีคิ้ว 30 คน จาก 3 โรงเรียน แล้วก็ครูอีก 30 คนค่ะ รวมถึงเราชาวอนุรักษ์ที่เสนอตัวเป็นพี่เลี้ยงเด็ก
ซึ่งวันนี้ น้องได้ขึ้นไปติดต่อ กับเจ้าหน้าที่เพื่อขอจองสถานที่ เนื่องจาก ช่วงนี้เป็นช่วงเทสกาล เที่ยวภู ตากหมอก รับลมหนาว เกรงว่าหากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จะไม่สะดวกในการจัดค่ายดังกล่าว รวมถึงการติดต่อเรื่องเจ้าหน้าที่ดูแลด้านกิจกรรม อาหาร ที่พัก...
ปรากฏมีรายงาน ด้วยเสียงตกใจ ..น้องสาวหลุดวงการอาสาไปนาน เห็นงานค่ายเปลี่ยนไปเป็นธุรกิจเช่นนี้
..พี่คะ..เขาคิดค่าใช้จ่ายมหาศาลเลยค่ะ
เริ่มด้วย ค่าเจ้าหน้าที่ 15 คน คนละ 500 ต่อวัน
ค่าเต๊นท์ 300 บาทต่อหลัง
ค่าทำโป่ง คิดค่าหัวเด็ก หัวละ 160 ต่อคน
ค่าทำฝาย 5000 บาทต่อฝาย
ค่าอาหารสองอย่างคิด 18,000 บาท
เจ้าหน้าที่หนึ่งคนพาเดินป่า 300 ต่อวัน
แต่เป็นฝรั่งจะ 1000 บาทต่อวัน (ค่าสีผม)
โดยกิจกรรมคร่าวๆ ประมาณนี้ค่ะ เช้ามารับเด็กจากเราเมื่อเดินทางไปถึง พาเด็กเข้าฐาน..จำไม่ได้ว่ากี่ฐาน
ตอนเย็นมีฉายสไลด์ มีพิธีบายศรี ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมค่ารอบกองไฟนะคะ
ทั้งๆ ที่โดยปกติเท่าที่เคยได้ยินก็คิดแค่สถานที่ ค่าหัวเด็ก 30 บาท ต่อคืน ตายแล้วๆๆๆๆ!!!! นี่ถ้าพวกเราจัดกิจกรรมกันเองเหมือน ค่ายสานฝันปันรอยยิ้ม จะต้องหาทุนกี่ชาติคะถึงจะจัดได้..
กิจกรรมค่ายครั้งนี้แม้ว่า สปอนเซอร์ชาวเดนมาร์ค ยินดีที่จะจ่ายไม่อั้น แต่โดยจิตสำนึกของคนทำค่าย(ซึ่งเราผ่านการหาทุน หาสปอร์นเซอร์อย่างยากลำบาก กว่าจะได้เงินมาสักก้อนเพื่ออยากปลูกจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติของเด็ก..เราอยากจ่ายน้อยที่สุด เพราะทุกคนทำงานแบบจิตอาสา หากเราไม่มีทุนจากสปอร์นเซอร์ใจป้ำแบบนี้ ครั้งต่อไปเราจะทำอย่างไร ต้องหาทุนจากไหนให้ได้มากเท่านี้
..น่าสงสารฝรั่งที่อุตส่าห์ อยากจัดกิจกรรมดีๆ เพื่อเด็กไทย..แต่เจอสกัดดาวรุ่ง แบบนี้เฮ่อออออ!!!!
หรือเพียงเพราะว่าเป็นช่วงโอกาสที่จะมี เงินตราไหลมาสู่พื้นที่คะ..เลยต้องรีบโกยไว้ !!!!
อันนี้ข้อคิดเห็นแบบขำๆ ของ T.Gang นะคะ .... ที่จริง ทำโป่ง เราก็ทำให้สัตว์ป่า (สัตว์ที่เป็นตัวดึงดูดผู้คนให้ไปเที่ยวชม) ผลประโยชน์ก็ได้แก่พื้นที่ของท่าน(เพราะจะมีนักท่องเที่ยวไปสู่พื้นที่ของท่านนำรายได้ไปให้ท่าน) ส่วน ทำฝาย ก็ฝายของท่าน เราไม่ได้นำฝายกลับมาบ้านด้วย...จริงๆ ท่านน่าจะจ่ายค่าจ้างให้เรานะคะ อิอิอิ
ท่านใดที่เคยไปเที่ยว ไปพัก หรือ ทำกิจกรรมที่ผากระดาษ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รบกวนท่านช่วยแชร์ ประสบการณ์หน่อยค่ะ ว่าท่าน ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้างในการไปพักผ่อนซึมซับธรรมชาติ….
สรุปว่าได้จัดค่ายหรือเปล่าคะ
ตอบลบ